วันเข้าพรรษา 2563 ตรงกับวันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2563 เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา พระสงฆ์นิกายเถรวาทจะจำพรรษาที่วัดใดวัดหนึ่งเป็นเวลา 3 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 และสิ้นสุดในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11
ประวัติวันเข้าพรรษา
ในอดีตสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าไม่ได้กำหนดการจำพรรษาในวันเข้าพรรษาไว้ พระสงฆ์ผู้ที่เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้เหยียบย่ำพืชผลชาวบ้านที่ปลูกไว้ในฤดูฝน สัตว์น้อยใหญ่ที่ออกหากินบนผิวดินถูกเหยียบย่ำ ชาวบ้านได้รับความเสียหาย เมื่อเรื่องนี้ทราบถึงพระพุทธเจ้าจึงเกิดการบัญญัติเรื่องวันเข้าพรรษาไว้ให้ภิกษุจำพรรษาอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลา 3 เดือน
ตามประวัติบันทึกไว้ ประเพณีวันเข้าพรรษามีระบุไว้ตั้งแต่สมัยสุโขทัย เกี่ยวกับการทำบุญวันเข้าพรรษาของพระมหากษัตริย์ และประชาชน เกี่ยวกับการถวายผ้าอาบน้ำฝนและถวายเทียนพรรษา
การเข้าพรรษาตามพระวินัย มี 2 แบบ ได้แก่
เข้าพรรษาตามปกติ เรียกว่า “ปุริมพรรษา” - เริ่ม แรม 1 ค่ำ เดือน 8 หากมีเดือน 8 สองหนก็จะเริ่มในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลัง และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 พระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาครบ 3 เดือน ก็จะมีสิทธิ์รับกฐินเข้าพรรษาหลัง เรียกว่า ปัจฉิมพรรษา - เริ่ม แรม 1 ค่ำ เดือน 9 และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ในกรณีที่พระภิกษุติดกิจต้องเดินทางไกลหรือมีเหตุสุดวิสัยให้ไม่สามารถเข้าพรรษาในรอบแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ได้
กรณีพระภิกษุต้องออกไปจำพรรษาที่อื่น สามารถขออนุญาตทำได้ เรียกว่า “สัตตาหกรณียะ” และต้องกลับมาภายใน 7 วัน เพื่อไม่ให้พรรษาขาด ไม่ถือว่าอาบัติ ได้แก่
พระภิกษุต้องดูแลบิดามารดาที่เจ็บป่วยทำสังฆกรรม อาทิ จัดหาอุปกรณ์ซ่อมกุฏิที่ชำรุดทายกนิมนต์ให้ไปทำบุญค้างคืน
ความสำคัญวันเข้าพรรษา
ในวันเข้าพรรษาที่มักตรงกับฤดูการเกษตรนี้ชาวบ้านจะปลูกพืชผล และภิกษุสงฆ์จะจำวัดเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ส่วนพุทธศาสนิกชนก็ร่วมบำเพ็ญกุศล ตักบาตร ถวายเทียนพรรษา รักษาศีล โดยความสำคัญของวันเข้าพรรษามี 5 ข้อ ดังนี้
พืชผลที่ชาวบ้านปลูกเป็นต้นกล้า จะได้เติบโตแข็งแรงไม่ถูกทำลายจากกรณีกิจของพระสงฆ์ที่ต้องเดินทางรับกิจนิมนต์
ให้พระภิกษุสงฆ์ได้หยุดพักผ่อนจากการเดินทางเผยแผ่พระพุทธศาสนา
พระภิกษุสงฆ์จะได้ฝึกปฏิบัติธรรมสำหรับตนเองเพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรม
บวชเรียนบุตรหลานที่ถึงวัยบวช หรือบรรพชา เพื่อเป็นกำลังในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้บำเพ็ญกุศล ถือศีล เจริญภาวนา ฟังเทศน์ ถวายเทียนพรรษา และถวายผ้าอาบน้ำฝน
พระภิกษุสงฆ์ที่อยู่จำพรรษาจนครบ จะได้สิทธิ์ยกเว้นพระวินัย 5 ข้อ ดังนี้
1. เที่ยวเดินทางออกจากวัดโดยไม่ต้องแจ้งเจ้าอาวาสหรือพระสงฆ์รูปอื่นได้
2. เที่ยวเดินทางได้โดยไม่ต้องถือจีวรครบ 3 ผืน
3. ฉันล้อมวงแบบคณะโภชน์ได้
4. เก็บอดิเรกจีวรไว้ได้ตามปรารถนา
5. เก็บจีวรเมื่อมีผู้มาถวายได้ หากเกินกว่าไตรครอง โดยไม่ต้องสละเข้ากองกลาง
กิจกรรมวันเข้าพรรษา
เมื่อใกล้ถึงวันเข้าพรรษา พระภิกษุสงฆ์ในอาวาสต่างๆ จะเตรียมตัวซ่อมแซมบูรณะวัดให้พร้อมแก่การจำพรรษา เจ้าอาวาสจะเป็นผู้ประกาศ “วัสสูปนายิกา” เกี่ยวกับการเข้าพรรษาไว้อย่างชัดเจน และหลังจากจบประกาศแล้วก็จะมีการขอขมาลาโทษกันเพื่อให้พระสงฆ์ในวัดมีความสามัคคีกัน
การเริ่มต้นจำวัดเข้าพรรษา พระสงฆ์สามเณร จะกล่าวคำอธิษฐานพร้อมกันว่า อิมสฺมิ˚ อาวาเส อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปม
พุทธศาสนิกชนนิยมเดินทางไปวัดเพื่อช่วยทำความสะอาด บูรณะสถานที่ต่างๆ ในวัดเพื่ออำนวยความสะดวกแก่พระภิกษุสงฆ์ที่จะอยู่จำพรรษา รวมถึงเตรียมตัวเพื่อถวายทานอื่น ๆ อาทิ
บวชบุตรหลานที่อายุถึงวัยบรรพชา
ถวายผ้าอาบน้ำฝน
ถวายเทียนพรรษา
ถวายหลอดไฟ
ตักบาตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น