คู่มือการบริการประชาชน ***กองคลัง***
ของเทศบาลตำบลรางหวาย
อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี
1.งานบริการการจัดเก็บภาษีของเทศบาลตำบลรางหวาย
อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี
เทศบาลตำบลรางหวาย มีการจัดเก็บภาษีต่างๆ เช่น ภาษีบำรุงท้องถิ่น ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีป้าย ซึ่งภาษีแต่ละชนิดมีความหมายและวิธีการรวมถึงขั้นตอนการเสียภาษีดังต่อไปนี้
1.1. ภาษีบำรุุงท้องที่
1.1.1 กำหนดระยะเวลาการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษี
ตามพระราชบัญภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2508 กำหนดให้เจ้าของที่ดิน ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีบำรุงท้องที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการ
ที่ดินต่อพนักงานประเมิน ณ ที่สำนักงานเทศบาลตำบลรางหวาย หรือหน่วยรับบริการเคลื่อนที่ตามกำหนด ภายในเดือนมกราคมของปี
* แบบแสดงรายการที่ได้ยื่นไว้นั้นใช้ได้ทุกปีในรอบระยะเวลา 4 ปี มีการรับแจ้งยื่นแบบประเมินภาษีในรอบระยะเวลา 4 ปี จะต้องมี
การยื่นแบบครั้งแรกของปีแรก หากไม่ยื่นภายในกำหนด เจ้าที่ดินจะต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 10 ของจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษี
* กรณีบุคคลใดเป็นเจ้าของที่ดินขึ้นใหม่ หรือจำนวนที่ดินเปลี่ยนแปลงไป เจ้าของที่ดิต้องยื่นแบบแสดงรายการที่ดินภายใน 30 วัน
นับตั้งแต่วันที่เป็นเจ้าของที่ดินขึ้นใหม่ หรือ นับแต่วันที่จำนวนเนื้อที่ดินเพิ่มขึ้นใหม่
1.1.2 อัตราโทษและค่าปรับ
* ผู้ใดละเลยการยื่นแบบแสดงรายการ มีความผิดโทษปรับไม่เกิน 200 บาท และเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 2 ปี
* ผู้ใดยื่นแบบแสดงรายการไม่ถูกต้องตามความจริงหรือไม่บริบูรณ์ มีความผิดต้องระวางโทษจำคุก หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและเรียกเก็บภาษีย้อนหลังได้ไม่เกิน 5 ปี
* กำหนดระยะเวลาการชำระภาษี คือ เดือนมกราคม - เมษายนของทุกปี หากชำระภาษีเกินกำหนดเวลาดังกล่าว ต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 2
ของอัตราค่าภาษีที่จะต้องชำระ
1.1.3 เอกสารที่ใช้ประกอบในการเสียภาษี
1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. หลักฐานที่แสดงความเป็นเจ้าของที่ดิน
4. ใบเสร็จการเสียภาษีครั้งสุดท้าย (ถ้ามี)
5. หนังสือมอบอำนาจ กรณีให้ผู้อื่นมาทำการแทน
1.2. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน
1.2.1 ความหมาย และกำหนดระยะเวลาการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษี
ตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 กำหนดให้ผู้เป็นเจ้าของโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ กับที่ดินที่ต่อเนื่องกับ
โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างนั้น และในปีที่ผ่านมาได้มีการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินนั้น เช่น ให้เช่า ใช้เป็นที่ทำการค้าขาย ที่ไว้สินค้าประกอบอุตสาหกรรมให้ญาติ บิดา มารดา บุตร หรือผู้อื่นอยู่อาศัย หรือประกอบกิจการอื่นๆ เพื่อเป็นการหารายได้ (เชิงการค้า ,ทำรายได้) มีหน้าที่ยื่นแสดงแบบรายการ
ทรัพย์สิน ณ ทีีสำนักงานเทศบาลตำบลรางหวาย ตั้งแต่เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ หากไม่ยื่นแบบภายในกำหนด ต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 200
1.2.2 เอกสารในการยื่นชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน
1. สำเนาทะเบียนบ้าน/บัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีหน้าที่เสียภาษี
2. สำเนาโฉนดที่ดิน - สัญญาซื้อขายโรงเรือน
3. ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีโรงเรือนปีที่ผ่านมา (ถ้ามี)
1.2.3 อัตราโทษและค่าปรับ
* ผู้มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน เมื่อได้รับแจ้งการประเมินแล้ว จะต้องนำเงินค่าภาษีไปชำระภายใน 30 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับแจั้งการประเมิน
มิฉะนั้นจะต้องเสียภาษีเพิ่ม ดังนี้
1. ถ้าชำระไม่เกิน 1 เดือน นับแต่วันที่พ้นกำหนดให้เพิ่มร้อยละ 2.5 ของค่าภาษีที่ค้าง
2. ถ้าเกิน 1 เดือน แต่ไม่เกิน 2 เดือน ให้เพิ่มร้อยละ 5 ของค่าภาษีที่ค้าง
3. ถ้าเกิน 2 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน ให้เพิ่มร้อยละ 7.5 ของค่าภาษีที่ค้าง
4. ถ้าเกิน 3 เดือน แต่ไม่เกิน 4 เดือน ให้เพิ่มร้อยละ 10 ของค่าภาษีค้าง
* ผู้ใดละเลยไม่ปฏิบัติตามหมายเรียกของพนักงานเจ้าหน้าที่ ไม่ให้ความร่วมมือการแจ้งรายละเอียดในเรื่องใบแจ้งรายการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
* ผู้ใดแจ้งความเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
1.2.4 การอุทธรณ์การเมินภาษี
เมื่อผู้เสียภาษีได้รับแจ้งการประเมินแล้ว ไม่พอใจในการประเมินของพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ ได้โดยยื่นแบบ ภงด.9 ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน
และเมื่อได้รับแจ้งผลการชี้ขาดแล้วยังไม่เป็นที่พอใจก็มีสิทธินำเรื่องร้องต่อศาลได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งความให้ทราบคำชี้ขาด
1.3. ภาษีป้าย
ตามพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ.2510 กำหนดให้ผู้เป็นเจ้าของป้าย ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีป้าย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึงสิ้นเดือนมีนาคม ณ ที่สำนักงานเทศบาลตำบลรางหวาย
1.3.1 การกำหนดชำระภาษี นับจากได้รับแจ้งการประเมินภายใน 15 วัน
* กรณีที่มีการประเมินภาษีป้าย ตั้งแต่ 3,000 บาทเป็นต้นไปผู้เสียภาษีสามารถขอผ่อนชำระเป็นงวดๆเท่าๆ กันได้ แต่ต้องยื่นคำขอผ่านชำระก่อนครบกำหนดเวลาที่ต้องชำระภาษี
* การชำระภาณีเกินกำหนดเวลา หรือยื่นแบบเกินกำหนดต้องเสียเงินเพิ่ม ตามที่กฏหมายกำหนด
* การประเมินภาษีป้าย ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2535)
1. ป้ายที่อักษรไทยล้วน คิด 3 บาทต่อ 500 ตร.ซม.
2. ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศ หรือ ปนกับภาพและ/ หรือเครื่องหมายอื่นใด ให้คิด 20 บาทต่อ 500 ตร.ซม.
3. ป้ายดังต่อไปนี้ให้คิด 40 บาท ต่อ 500 ตร.ซม.
- ป้ายที่มีอักษรไทยบางส่วน หรือทั้งหมดอยู่ใต้ หรือต่ำกว่าอักษรต่างประเทศ
- ป้ายตามข้อ 1,2และ 3 เมื่อคำนวณพื้นที่ของป้ายแล้ว ถ้ามีอัตราต้องเสียภาษีตำกว่า 200 บาท ให้เสียภาษีป้ายละ 200 บาท
1.3.2 เอกสารประกอบในการยื่นชำระภาษีป้าย
1. บัตรประจำตัวประชาชนพร้อมสำเนาทะเบียนบ้าน
2. ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีป้ายปีที่ผ่านมา (ถ้ามี)
2.งานบริการขออนุญาตจดทะเบียนพาณิชย์
2.1ความเป็นมา
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ถ่ายโอนภารกิจงานจดทะเบียนพาณิชย์ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือน มกราคม 2554 เป็นต้นไป โดยให้เทศบาลฯ รับจดทะเบียนในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในการยื่นจดทะเบียนพาณิชย์ ประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และผู้ประกอบการสามารถนำหลักฐานการจดทะเบียนพาณิชย์ไปใช้การทำธุรกรรมได้ ได้เปิดให้บริการแก่ ผู้ประกอบพาณิชยกิจ โดยสามารถมาจดทะเบียนพาณิชย์ได้ ณ เทศบาลฯ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
2.2 ผู้มีหน้าที่จดทะเบียน
ผู้มีหน้าที่จดทะเบียนพาณิชย์ คือ บุคคลธรรมดาคนเดียวหรือหลายคน (ห้างหุ้นส่วนสามัญ) หรือ นิติบุคคลรวมทั้งนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ ที่มาตั้งสำนักงานสาขาในประเทศไทยซึ่งประกอบกิจการค้าอันเป็นพาณิชยกิจตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด
2.3 กิจการค้าที่เป็นพาณิชยกิจที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์
1.การทำโรงสีข้าวและการทำโรงเลื่อยที่ใช้เครื่องจักร
2.การขายสินค้ารวมทั้งสิ้นในวันหนึ่งเป็นเงิน ตั้งแต่ 20 บาท ขึ้นไป
หรือมีสินค้าดังกล่าวไว้เพื่อขายมีค่ารวมทั้งสิ้นเป็นเงินตั้งแต่ 500 บาท ขึ้นไป
3.การเป็นนายหน้าหรือตัวแทนค้าต่าง ซึ่งทำการเกี่ยวกับสินค้ามีค่ารวมทั้งสิ้นเป็นเงินตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป
4.การประกอบหัตถกรรมหรืออุตสาหกรรมและขายสินค้าที่ผลิตได้
5.การขนส่งทางทะเล การขนส่งโดยเรือกลไฟ หรือเรือยนต์ประจำทาง การขนส่งโดยรถไฟ
การขนส่งโดยรถราง การขนส่งโดยรถยนต์ประจำทาง การขาย ทอดตลาด การรับซื้อขายที่ดิน การให้กู้ยืมเงิน
การรับ แลกเปลี่ยนหรือซื้อขายเงินตราต่างประเทศ
การซื้อหรือขายตั๋วเงิน การธนาคาร การโพยก๊วน การทำโรงรับจำนำและการทำโรงแรม
6.การขาย การผลิตหรือให้เช่า แผนซีดี แถบบันทึก วีดิทัศน์ แผ่นซีดิทัศน์ ดีวีดี
หรือ แผนวีดีทัศน์ระบบดิจิทัล
เฉพาะที่เกี่ยวกับการบันเทิง
7.ขายอัญมณี หรือเครื่องประดับซึ่งประดับด้วยอัญมณี
8.การซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
9.การบริการอินเทอร์เน็ต
10.การให้เช่าพื้นที่ของเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย
11.การบริการเป็นตลาดกลางในการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
12.การให้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อใช้อินเทอร์เน็ต
13.การให้บริการฟังเพลงและร้องเพลงโดยคาราโอเกะ
14.การให้บริการเครื่องเล่นเกมส์
15.การให้บริการตู้เพลง
16.โรงงานแปรสภาพ แกะสลัก
และการทำหัตถกรรมจากงาช้าง การค้าปลีก การค้าส่งงาช้าง และผลิตภัณฑ์จากงาช้าง
2.4 เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนพาณิชย์
จดทะเบียนพาณิชย์
(ตั้งใหม่) เอกสารที่ใช้ ได้แก่
1) คำขอจดทะเบียนพาณิชย์ (แบบ ทพ.)
2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
3) สำเนาทะเบียนบ้าน
4) กรณีผู้ประกอบการมิได้เป็นเจ้าบ้าน ต้องแนบเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
·
หนังสือให้ความยินยอมใช้สถานที่
·
สำเนาทะเบียนบ้านหลังที่ประกอบพาณิชยกิจ
·
สำเนาสัญญาเช่า
·
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของสถานที่
·
สำเนาทะเบียนบ้านเจ้าของสถานที่
5) กรณีมอบอำนาจ ต้องแนบเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
·
หนังสือมอบอำนาจพร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท
·
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
6) กรณีประกอบพาณิชยกิจ ขาย หรือให้เช่า แผ่นซีดี แถบบันทึก วีดิทัศน์
แผนวีดิทัศน์ ดีวีดี หรือแผ่นวีดิทัศน์ระบบดิจิทัล เฉพาะที่เกี่ยวกับการบันเทิง ต้องมีสำเนาหนังสืออนุญาต
หรือ หนังสือรับรองให้เป็นผู้จำหน่ายหรือให้เช่า จากเจ้าของลิขสิทธิ์
กรณีจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ต้องมี แบบฟอร์มเอกสารแนบท้าย แบบ ทพ.7) เทศบาลฯ ให้บริการปรับลดขั้นตอนเหลือ 4 ขั้นตอน 15 นาที/ราย
จดทะเบียนพาณิชย์
(เปลี่ยนแปลง) เอกสารที่ใช้ ได้แก่
1) คำขอจดทะเบียนพาณิชย์ (แบบ ทพ.)
2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
3) สำเนาทะเบียนบ้าน
4) กรณีเปลี่ยนแปลงแก้ไขที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ ต้องแนบเอกสารเพิ่มเติม
ดังนี้
·
หนังสือให้ความยินยอมใช้สถานที่
·
สำเนาทะเบียนบ้านหลังที่ประกอบพาณิชยกิจ
·
สำเนาสัญญาเช่า
·
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของสถานที่
·
สำเนาทะเบียนบ้านเจ้าของสถานที่
5) กรณีมอบอำนาจ ต้องแนบเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
·
หนังสือมอบอำนาจพร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท
·
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
6) ใบทะเบียนพาณิชย์ (แบบ พค.0403)
7) เทศบาลฯ ให้บริการปรับลดขั้นตอนเหลือ 4 ขั้นตอน 15 นาที/ราย
จดทะเบียนพาณิชย์
(เลิก) เอกสารที่ใช้ ได้แก่
1) คำขอจดทะเบียนพาณิชย์ (แบบ ทพ.)
2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
3) สำเนาทะเบียนบ้าน
4) ใบทะเบียนพาณิชย์ (แบบ พค.0403)
5) กรณีผู้ประกอบพาณิชยกิจถึงแก่กรรม
·
สำเนาใบมรณบัตร
·
สำเนาหลักฐานแสดงความเป็นทายาท
6) กรณีมอบอำนาจ ต้องแนบเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
·
หนังสือมอบอำนาจพร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท
·
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
7) เทศบาลฯ ให้บริการปรับลดขั้นตอนเหลือ 4 ขั้นตอน 13นาที/ราย
2.5 อัตราค่าธรรมเนียม
1. ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนพาณิชย์ เรียกเก็บ 50 บาท
2. ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงรายการ เรียกเก็บ ครั้งละ 20 บาท
3. ค่าธรรมเนียมการเลิกประกอบพาณิชยกิจ เรียกเก็บ 20 บาท
4. ค่าธรรมเนียมการขอให้ออกใบแทน เรียกเก็บ ฉบับละ 30 บาท
5. ค่าธรรมเนียมการขอตรวจดูเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนพาณิชย์ของผู้ประกอบพาณิชยกิจรายหนึ่งเรียกเก็บครั้งละ 20 บาท
6. ค่าธรรมเนียมการคัดสำเนาและรับรองสำเนาเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนพาณิชย์
เรียกเก็บ ฉบับละ
30 บาท
30 บาท
2.6 บทกำหนดโทษ
1. ประกอบพาณิชยกิจโดยไม่จดทะเบียนพาณิชย์ ภายใน 30 วัน แสดงรายการเท็จ
มีความผิดต้องระวางโทษปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท
กรณีไม่จดทะเบียนพาณิชย์อันเป็นความผิดต่อเนื่อง ปรับอีกวันละไม่เกิน 100 บาท
2. ใบทะเบียนพาณิชย์สูญหาย แต่ไม่ยื่นคำร้องขอใบแทน ภายใน 30 วัน หรือไม่แสดงใบทะเบียนพาณิชย์ไว้ที่สำนักงานให้เห็นได้ง่าย
มีความผิดปรับไม่เกิน 200 บาท และในกรณีเป็นความผิดต่อเนื่อง
ปรับอีกวันละไม่เกิน 20 บาท
3. ผู้ประกอบพาณิชยกิจที่ถูกสั่งถอนใบทะเบียนพาณิชย์
แล้วยังฝ่าฝืนประกอบพาณิชยกิจต่อไป มีความผิดต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ทั้งปรับทั้งจำ
3.งานบริการขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง
3.งานบริการขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง
การขออนุญาตใช้เสียง
พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493
การควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง หมายถึง การที่เราจะโฆษณาสินค้าหรือกิจการในร้านของเรา โดยมีการประกาศเสียงตามรถประชาสัมพันธ์ หรือ โฆษณาอยู่ประจำที่ หรือ ร้านแห่งนั้นงานที่จะโฆษณาใช้เสียงจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทกิจการประเภทที่ 1 คือ การโฆษณาในกิจการที่ไม่เป็นไปในทำนองการค้า ขอใบอนุญาตได้คราวละไม่เกิน 15 วัน ค่าธรรมเนียม ฉบับละ10 บาท กิจการประเภทนี้ก็จะมี งานขึ้นบ้านใหม่ งานทำบุญบ้าน งานไหว้ครู งานมหรสพต่างๆกิจการประเภทที่ 2 คือ การโฆษณาที่เป็นไปในทำนองการค้า แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือก. การโฆษณาเคลื่อนที่โดยใช้รถประชาสัมพันธ์วิ่งตามเส้นทางต่างๆ ภายในเขตเทศบาล สามารถขออนุญาตได้คราวละ ไม่เกิน 5 วัน ค่าธรรมเนียมโฆษณาเคลื่อนที่ ฉบับละ 60 บาทข. คือ การโฆษณาประจำที่โดยประชาสัมพันธ์ ณ ร้านหรือกิจการนั้น ๆ สามารถขออนุญาตได้คราวละ ไม่เกิน 15 วัน ค่าธรรมเนียม โฆษณาประจำที่ ฉบับละ 75 บาทห้ามอนุญาตและห้ามใช้เสียงโฆษณาในระยะใกล้กว่า 100 เมตร จากบริเวณสถานที่ใดสถานที่หนึ่งดังต่อไปนี้ก. โรงพยาบาล
ข. วัด หรือสถานที่บำเพ็ญศาสนกิจ และค. ทางแยกที่มีการสัญจรไปมาคับคั่งอยู่เป็นปกติ ห้ามใช้เสียงโฆษณาในระยะใกล้กว่า 100 เมตร จากบริเวณสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ดังต่อไปนี้ก. โรงเรียนระหว่างทำการสอน ข. ศาลสถิตยุติธรรมในระหว่างเวลาพิจารณา |
การปฏิบัติภายหลังที่ได้รับอนุญาต เมื่อได้รับอนุญาตให้ทำการโฆษณาแล้ว ให้ผู้ได้รับอนุญาตนำใบอนุญาตนั้นไปแสดงต่อนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ดังต่อไปนี้ ก. โฆษณาประจำที่ ให้แสดงต่อสถานีตำรวจเจ้าของท้องที่นั้น เมื่อนายตำรวจซึ่งเป็นหัวหน้าในสถานีตำรวจนั้น หรือผู้รักษาการแทน ได้ลงนามรับทราบในใบอนุญาตนั้นแล้วจึงทำการโฆษณาได้ |
ขั้นตอนการให้บริการ
1. ผู้ขออนุญาตยื่นคำขออนุญาตทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง (แบบ ฆ.ษ.1)
2. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐาน 3. เจ้าพนักงานท้องถิ่นผู้มีอำนาจลงนามอนุญาตให้ทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง (แบบ ฆ.ษ.2) เอกสารประกอบการพิจารณา 1. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขออนุญาตและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 2. ใบอนุญาตให้มีเพื่อใช้ซึ่งเครื่องขยายเสียงและไมโครโฟน (ถ้ามี) 3. รายละเอียดของเครื่องขยายเสียงที่จะใช้ เช่น กำลังไฟฟ้าที่ใช้กำลังขยายเสียง 4. แผนที่แสดงที่ตั้งใช้เครื่องขยายเสียง |
ขอบคุณครับ
ตอบลบ